ค่าเงินบาทวันนี้ พลิกแข็งค่า 36.08 บาท นักลงทุนตลาดการเงินเริ่มเปลี่ยนมุมมอง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 8 ก.ค.65 ที่ระดับ 36.08 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.11 บาทต่อดอลลาร์ โดย มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.15 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้แม้ว่าตลาดการเงินโดยรวมจะยังคงถูกกดดันจากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจหลัก อย่าง สหรัฐ และ ยุโรป อาจชะลอตัวลงหนักจนเข้าสู่สภาวะถดถอย ทว่า ในฝั่งตลาดการเงินสหรัฐ ผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐและเงินเฟ้อชะลอลงมากขึ้น เฟดก็อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับวันนี้ มองว่า ตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ โดยตลาดประเมินว่า ตลาดแรงงานสหรัฐ มีแนวโน้มแข็งแกร่งอยู่ โดยยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในเดือนมิถุนายน อาจเพิ่มขึ้นราว 2.7 แสนราย ทำให้อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6%

อย่างไรก็ดี หากข้อมูลตลาดแรงงานออกมาแย่กว่าคาด อาทิ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ชะลอตัวลงก่อนหน้า อาจทำให้เฟดไม่สามารถเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้รุนแรงอย่างที่ตลาดเคยกังวล ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนและมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าได้ ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

รวมถึงความกังวลแนวโน้มทางการจีนอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ซึ่งประเมินว่า แนวรับของเงินบาทในระยะสั้น ยังอยู่ในช่วง 35.90-36.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวต้านสำคัญยังเป็นโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ (มีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้าน หากทางการจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์จริง จนเกิดแรงเทขายสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia)

นอกจากนี้ยังคงมุมมองเดิมว่า จุดกลับตัวของเงินดอลลาร์อาจเกิดขึ้นในช่วงการประชุมเฟดปลายเดือนนี้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ทำให้ยังมีโอกาสที่เงินบาทจะเริ่มกลับตัวมาแข็งค่าได้

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน ในช่วงก่อนและหลังตลาดรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เฟดใช้ประกอบในการตัดสินใจนโยบายการเงิน ส่วนในมุมมองของผู้เล่นในตลาดก็อาจกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นได้และกลับมาปิดรับความเสี่ยง หากข้อมูลออกมาแย่กว่าคาดไปมาก