add_filter( 'admin_email_check_interval' , '__return_false' ); April, 2024 - Metropena - Page 2

Archives April 2024

ค่าเงินบาทวันนี้ พลิกแข็งค่า 36.08 บาท นักลงทุนตลาดการเงินเริ่มเปลี่ยนมุมมอง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 8 ก.ค.65 ที่ระดับ 36.08 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.11 บาทต่อดอลลาร์ โดย มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.15 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้แม้ว่าตลาดการเงินโดยรวมจะยังคงถูกกดดันจากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจหลัก อย่าง สหรัฐ และ ยุโรป อาจชะลอตัวลงหนักจนเข้าสู่สภาวะถดถอย ทว่า ในฝั่งตลาดการเงินสหรัฐ ผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐและเงินเฟ้อชะลอลงมากขึ้น เฟดก็อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับวันนี้ มองว่า ตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ โดยตลาดประเมินว่า ตลาดแรงงานสหรัฐ มีแนวโน้มแข็งแกร่งอยู่ โดยยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในเดือนมิถุนายน อาจเพิ่มขึ้นราว 2.7 แสนราย ทำให้อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6%

อย่างไรก็ดี หากข้อมูลตลาดแรงงานออกมาแย่กว่าคาด อาทิ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ชะลอตัวลงก่อนหน้า อาจทำให้เฟดไม่สามารถเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้รุนแรงอย่างที่ตลาดเคยกังวล ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนและมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าได้ ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

รวมถึงความกังวลแนวโน้มทางการจีนอาจใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ซึ่งประเมินว่า แนวรับของเงินบาทในระยะสั้น ยังอยู่ในช่วง 35.90-36.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวต้านสำคัญยังเป็นโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ (มีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้าน หากทางการจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์จริง จนเกิดแรงเทขายสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia)

นอกจากนี้ยังคงมุมมองเดิมว่า จุดกลับตัวของเงินดอลลาร์อาจเกิดขึ้นในช่วงการประชุมเฟดปลายเดือนนี้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ทำให้ยังมีโอกาสที่เงินบาทจะเริ่มกลับตัวมาแข็งค่าได้

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน ในช่วงก่อนและหลังตลาดรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ เนื่องจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เฟดใช้ประกอบในการตัดสินใจนโยบายการเงิน ส่วนในมุมมองของผู้เล่นในตลาดก็อาจกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นได้และกลับมาปิดรับความเสี่ยง หากข้อมูลออกมาแย่กว่าคาดไปมาก

คิง เพาเวอร์ เปิดตัวเพลงพิเศษ “My Duty” ฉลองครบรอบ 33 ปี ส่งความสุขครั้งใหม่ในทุกการเดินทาง

งานฉลองวันเกิด คิง เพาเวอร์ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขของการช้อปปิ้งที่กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน โดยมาพร้อมกับซิงเกิล “My Duty” บทเพลง Exclusive ที่ คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ QOW Entertainment (คาวว์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) และ XOXO Entertainment (เอ็กซ์โอเอ็กซ์โอ เอนเตอร์เทนเมนต์) สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้คนไทยสัมผัสประสบการณ์ความสุขครั้งใหม่ในทุกการเดินทางผ่านศิลปินชื่อดังอย่าง JAYLERR และ 7สาวเกิร์ลกรุ๊ป 4EVE โดยงานนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเพลงพิเศษนี้ พร้อมกันนี้ยังได้ศิลปินนักแสดงอีกมากมายที่มาร่วมสร้างสีสันความสนุกไม่ว่าจะเป็น พีพี กฤษฎ์ , บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ,เต ตะวัน , ไบร์ท นรภัทร ,โอม ภวัต และ เจนนี่ ปาหนัน ซึ่งงานนี้ได้มีการไลฟ์สตรีมมิ่งไปยังช่องทางออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก Kingpower official และ เวยโป๋ https://weibo.com/kingpowergroup ด้วย เพื่อให้แฟนคลับ คิง เพาเวอร์ ชาวจีน ได้มีโอกาสร่วมฉลองและมีความสุขไปด้วยกัน นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมความสนุกมากมายที่จัดเตรียมเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็น snap the moment station โฟโต้บูธให้คุณได้เก็บช่วงเวลาแห่งความประทับใจ, สนุกไปกับเกมรับของรางวัลในสุ่มตัก station และอร่อยไปกับซุ้มขนม snack station พร้อมรับสิทธิพิเศษสำหรับการช้อปปิ้งต่างๆอีกมากมาย

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ความพิเศษของแคมเปญ KING POWER 33rd ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES 2022 ฉลองครบรอบ33 ปี คิง เพาเวอร์ ที่จัดตลอดเดือนตุลาคม มีอย่างต่อเนื่องและเซอร์ไพรส์มากขึ้น สอดคล้องกับธีม ANNIVERSURPR!SE TRIP ทริปปาร์ตี้ แอนนิเวอร์ซารี!!’ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมใหญ่ให้กับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้ามีความสุขไปพร้อมๆ กันกับ คิง เพาเวอร์ ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่โปรเจคพิเศษ My Duty ซิงเกิลแห่งความสุขที่ คิง เพาเวอร์ ขอมอบประสบการณ์ความสุขครั้งใหม่ในทุกการเดินทางให้กับคนไทย โดยเนื้อหาเพลงกล่าวถึงการได้ออกเดินทางและดูแลคนที่เรารักระหว่างเดินทาง เสมือน คิง เพาเวอร์ ที่จะขอเป็นเพื่อนร่วมออกเดินทางพร้อมการมอบทุกประสบการณ์ที่น่าประทับใจระหว่างเดินทางกับทุกคน ให้สมกับผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวระดับโลก

และในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ช่วยเป็นสื่อกลาง คิง เพาเวอร์ ส่งมอบความสุขนั้น JAYLERR หรือ เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับ คิง เพาเวอร์ ในโอกาสครบรอบ 33 ปี และขอขอบคุณที่มอบโอกาสให้ผมได้ทำเพลง My Duty ซึ่งเป็นโปรเจคพิเศษที่ได้ร่วมงานกับน้องๆ วง 4EVE แบบจริงๆจังๆ จากโจทย์ คิง เพาเวอร์ ต้องการให้เพลงนี้เป็นการเริ่มต้นความสุขของการออกเดินทางครั้งใหม่ เพื่อปลุกบรรยากาศความสุขของพวกเราทุกคน ผมและ คิง เพาเวอร์ มีหน้าที่ต่างกัน แต่เป้าหมายของการทำหน้าที่เหมือนกันคือการส่งมอบ ‘ความสุข’ โดยความหมายของเพลงนี้ คือ การเล่าถึงความสุขของการที่เราได้ดูแลใครสักคน อย่างเวลาที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก เราก็อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา โดยเฉพาะตอนที่เราได้ไปเที่ยวด้วยกัน”

ด้านศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปวง 4EVE ต่างก็กล่าวว่า “พวกเราดีใจมาก ที่ได้มาร่วมฉลอง 33 ปีกับ คิง เพาเวอร์ ได้ร่วมในซิงเกิล เพลง My Duty ที่มีเนื้อเพลงและทำนองเพลงที่น่ารักสดใส เป็นซิงเกิลพิเศษที่พวกเราตื่นเต้นมาก เพราะนอกจากที่พวกเราจะได้ร่วมงานกับพี่เจเจแแล้ว ยังเป็นการร่วมงานกับ คิง เพาเวอร์ ซึ่งต้องขอขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ ในการให้โอกาสพวกเราร่วมในโปรเจคพิเศษแห่งความสุขนี้ หวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับเพลง My Duty ของพวกเรานะคะ

สำหรับกิจกรรม ในทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ยังมีศิลปินที่มาร่วมจัดทริปแฮปปี้มอบความสุข โดยในทุกวันเสาร์ เวลา 18.30 น. พบกับคอนเสิร์ตสุดมันส์ ซึ่งในวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคมนี้ พบกับ 4EVE และในวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พบกับปาล์มมี่ และในทุกวันอาทิตย์พบกับ FACEBOOK LIVE PARTY เวลา 19.00 น. โดยในอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้พบกับ อัพ ภูมิพัฒน์ และในวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พบกับ หยิ่น อานันท์ – วอร์ วนรัตน์

ทั้งนี้ สามารถร่วมทริปปาร์ตี้ แอนนิเวอร์ซารี กับกิจกรรม KING POWER 33rd ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES 2022 พร้อมแฮปปี้กับการร่วมลุ้นรางวัลรวมมูลค่า 3.3 ล้านบาท เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ) และ แฮปปี้รับตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ หรือ ภูเก็ต-สิงคโปร์ เมื่อช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) หรือ ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ – เกาหลีใต้ เมื่อช้อปครบ 150,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) พร้อมเซอร์ไพรส์สุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการสมัครสมาชิก โดยเป็นครั้งแรกของปีที่ให้สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY ฟรี หรือหากเลือกสมัครสมาชิก SCARLET และ ONYX รับ E-Gift Card ช้อปเพิ่มสูงสุด 18,000 บาท ตลอดจน เอกสิทธิ์เฉพาะสมาชิกมากมาย อาทิ ส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรการท่องเที่ยวที่ร่วมรายการสูงสุด 33% และรับสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ เท่านั้น

พิเศษ ! ตั้งแต่วันที่ 18 – 24 ตุลาคม 2565 สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับทันทีส่วนลดสูงสุด 30% และหากสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ระหว่างวันที่ 18 – 24 ตุลาคมนี้ สมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ SCARLET รับส่วนลด On-Top 3% เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ และ ONYX รับส่วนลด On-Top 3% เมื่อช้อปครบ 100,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ร่วมทริปแฮปปี้ ฉลองแอนนิเวอร์ซารี ร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา รางน้ำ, พัทยา, ภูเก็ต และศรีวารี เฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงสาขาในสนามบินสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง , เชียงใหม่, ภูเก็ต และหาดใหญ่ พร้อมรับชมมิวสิควีดีโอเพลง My Duty ได้ทาง YouTube : KingpowerOfficial หรือฟังเพลงผ่านมิวสิคสตรีมมิ่งทุกช่องทาง และสามารถร่วมสนุกกับเพลงผ่าน TIKTOK พร้อมติด #MyDutyให้เธอแฮปปี้ #Kingpower #JAYLERRx4EVEคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เปิด 10 จุดตกต่ำข้าวไทย ฉุดชาวนาจนสุดในเอเชีย

ประเทศไทย ถือเป็นประเทศเกษตรกรรม กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรไทยมีอาชีพเกษตรกรรม ส่งผลให้ประเทศไทยมีจำนวนประชากรในภาคเกษตรไม่น้อยกว่าสามสิบล้านคน แต่กลับไม่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาอย่างจริงจัง ส่งผลให้เกษตรกรไทย ยังมีรายได้ไม่ค่อยสูง แต่ต้นทุนการผลิตกลับพุ่งสูง

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดถึงผลก่ารศึกษา “10 ปี ชาวนาไทย : จนเพิ่ม หนี้ท่วม” พบว่า ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ข้าวไทยอยู่ในวังวนของการแทรกแซงตลาด ทั้งการรับจำนำ และการประกันรายได้เกษตรกร มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การผลิต และการตลาดข้าวไทยไม่ได้รับการพัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาวนาไทยยากจนที่สุดในเอเชีย และในอาเซียน เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างอินเดีย เวียดนาม และเมียนมา เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตอยู่ในระดับสูงมาก แต่ศักยภาพการผลิตต่ำที่สุด ผลผลิตต่อไร่ต่ำที่สุด รายได้ต่ำที่สุด และเงินเหลือในกระเป๋าติดลบ และยังมีรายได้ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ปลูกทุเรียน ปาล์มน้ำมัน และยางพารา

นอกจากนี้ได้สรุป 10 ปีข้าว จุดอับ: บทเรียนที่สิ้นหวังของข้าวไทย พบว่า

1. ผลผลิตข้าวต่อไร่ของไทยต่ำ ไทยต่ำกว่าเวียดนาม 3 เท่า (ไทยเฉลี่ย 450 กก.ต่อไร่ เวียดนามมากกว่า 1,000 กก. หรือมากกว่า 1 ตันต่อไร่) 

2คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ชาวนาไทยมีอาชีพทำนา แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวนามืออาชีพ ขณะที่เวียดนามคือชาวนาอาชีพ จากชาวนาไทยส่วนใหญ่คิดแค่ 2 เรื่องคือ ราคากับผลผลิต ไม่ค่อยคิดเรื่องการปรับลดต้นทุน แต่ชาวนาเวียดนามคิดในเรื่อง “3 ลด 3 เพิ่ม”

3. ปลดหนี้โดยขายที่นา ชาวนาขาดทุนสะสมจากการทำนาต้องขายที่นา และเช่าที่นาตัวเองเพื่อทำการเกษตรต่อ นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่สามารถปลดหนี้ให้กับชาวนาได้

4. แหล่งน้ำไม่พร้อม และปัญหาโลกร้อน เวียดนามทำนาได้ 3 ครั้งต่อปี ไทยทำได้ 1-2 ครั้ง

5. เงินวิจัยน้อย ไทยใส่เงิน 200 ล้านบาทในการวิจัย แต่เวียดนามใส่เงิน 3 พันล้านบาท ส่วนอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ใส่เงินวิจัยข้าวมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

6. นโยบายการแทรกแซงตลาด ทำลายศักยภาพการแข่งข้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาข้าวอย่างแท้จริงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

7. ยิ่งทำนา หนี้ยิ่งเพิ่ม ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตต่อไร่ลดลง ราคาขายลดลง

8. ข้าวไทยไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หันไปรักสุขภาพมากขึ้นและข้าวหอม และนุ่ม

9. เอกลักษณ์ข้าวไทยลดน้อยถอยลง (ความหอม ความนุ่ม) มีการปลอมปน และเร่งการผลิตบนที่ดินที่ขาดคุณภาพ

10. การควบคุมการกระจายพันธุ์ข้าว การกระจายพันธุ์ข้าวเพื่อควบคุมคุณภาพข้าวเวียดนามทำได้ดีกว่าไทย

ขณะเดียวกันยังได้เปรียบเทียบชาวนาไทย กับอินเดีย เวียดนาม และเมียนมา

  • ในช่วง 10 ปี (ปี 2555 กับ 2565) พบว่า ผลผลิตข้าวไทยลดลง รายได้ และเงินคงเหลือของไทยน้อยกว่าคู่แข่ง และต้นทุนการผลิตของไทยเพิ่มขึ้นรองจากอินเดีย
  • ต้นทุนการผลิตของชาวนาไทย ในปี 2565 มีต้นทุนการผลิต 5,898.5 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 2,058.8 บาท/ไร่ จากปี 2555 (ปี 2555 มีต้นทุนการผลิต 3,839.7 บาท/ไร่) ขณะที่รายได้ลดลง 777.7 บาท/ไร่ โดยในปี 2565 ชาวนามีรายได้ 3,900.3 บาท/ไร่ น้อยกว่าในปี 2555 ที่มีรายได้ 4,678.0 บาท/ไร่ ทั้งนี้ ในปี 2555 ชาวนามีเงินคงเหลือ 838.3 บาท/ไร่ แต่ปี 2565 ชาวนามีเงินขาดทุน 1,998.2 บาท/ไร่
  • ในปี 2565 ชาวนาอินเดียมีต้นทุนการผลิต 6,993.7 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 2,581.8 บาท/ไร่ จากปี 2555 (ปี 2555 มีต้นทุนการผลิต 4,411.9 บาท/ไร่) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีต้นทุนเพิ่ม แต่ชาวนาอินเดียก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 1,817.4 บาท/ไร่ โดยในปี 2565 ชาวนามีรายได้ 11,115.6 บาท/ไร่ เพิ่มจากปี 2555 ที่มีรายได้ 9,298.2 บาท/ไร่ ทำให้ในปี 2555 ชาวนาอินเดียมีเงินคงเหลือ 4,886.3 บาท/ไร่ และปี 2565 มีเงินคงเหลือ 4,121.9บาท/ไร่
  • ในปี 2565 ชาวนาเวียดนามมีต้นทุนการผลิต 5,098.1 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 1,027.3 บาท/ไร่ จากปี 2555 (ปี 2555 มีต้นทุนการผลิต 4,070.8 บาท/ไร่) ซึ่งชาวนาเวียดนามมีรายได้เพิ่มขึ้น 69.1 บาท/ไร่ โดยในปี 2565 ชาวนามีรายได้ 8,320.6 บาท/ไร่ เพิ่มจากปี 2555 ที่มีรายได้ 8,251.5 บาท/ไร่ ทำให้ในปี 2555 ชาวนาเวียดนามมีเงินคงเหลือ 4,180.7 บาท/ไร่ และปี 2565 มีเงินคงเหลือ 3,222.5 บาท/ไร่
  • ในปี 2565 ชาวนาเมียนมามีต้นทุนการผลิต 4,574.2 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 1,420 บาท/ไร่ จากปี 2555 (ปี 2555 มีต้นทุนการผลิต 3,154.2 บาท/ไร่) ทั้งนี้ ชาวนาเมียนมามีรายได้เพิ่มขึ้น 1,421.3 บาท/ไร่ โดยในปี 2565 ชาวนามีรายได้ 5,953.1 บาท/ไร่ เพิ่มจากปี 2555 ที่มีรายได้ 4,532 บาท/ไร่ ทำให้ในปี 2555 ชาวนาเมียนมามีเงินคงเหลือ 1,377.8 บาท/ไร่ และปี 2565 มีเงินคงเหลือ 1,379.1 บาท/ไร่

เริ่มวันนี้! “บขส.” เปิดจุดรับขนส่งสิ่งของช่วยน้ำท่วมฟรี ที่หมอชิต 2

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เร่งให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบอุทกภัยคำพูดจาก ทดลองเล่น

บขสคำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อตทุกค่ายไม่ต้องสมัคร. จึงได้เปิด “จุดรับขนส่งสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัย” ณ ศูนย์รับส่งพัสดุภัณฑ์ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงาน และจัดส่งสิ่งของไปยังหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และ จ.สิงห์บุรี ต่อไป

ทั้งนี้หน่วยงานหรือผู้มีจิตศรัทธา สามารถแจ้งความประสงค์ขอบริจาคสิ่งของ ได้ที่ กองสื่อสารองค์กรและการตลาด สำนักอำนวยการ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 0-2936-2996 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในเวลา 09.00-16.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.65 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ได้แก่ อาหารแห้ง, น้ำดื่ม, ยารักษาโรค, ยากันยุง งดเว้นสิ่งของประเภทเสื้อผ้า อาหารสดต่างๆ

เตือน! มอเตอร์ไซค์เลี่ยงขับรถใกล้จุดบอดรถบรรทุก เพิ่มปลอดภัย

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ในปีนี้ ประเทศไทยมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ทั้งวันหยุดยาวตามเทศกาลประจำปีของประเทศไทย และวันหยุดราชการกรณีพิเศษ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 โดยมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ส่งผลให้มีอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ (จยย.) ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถประเภทอื่น และพบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถ จยยคำพูดจาก เว็บสล็อตทดลองเล่น. ส่วนใหญ่คู่กรณีจะเป็นรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่

ดังนั้น ขบ. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัย แนะนำผู้ขับขี่รถ จยย.ควรหลีกเลี่ยงการขับรถเข้าไปในจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ มี 4 จุด ได้แก่ บริเวณด้านหน้าและด้านขวาของรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น โดยเฉพาะในระยะประชิด เนื่องจากความสูงของตัวรถ ด้านหลังของรถบรรทุก ผู้ขับรถบรรทุกไม่สามารถมองเห็นด้านหลังของรถจากกระจกมองหลังได้ และด้านซ้ายของรถบรรทุก ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายที่สุด เนื่องจากเป็นจุดที่มีทัศนวิสัยแคบ ผู้ขับรถบรรทุกสังเกตเห็นรถคันอื่นได้ยาก ผู้ขับขี่รถ จยย. จึงควรหลีกเลี่ยงขับขี่รถเข้าไปอยู่ใกล้พื้นที่จุดบอดของรถบรรทุกในทุกกรณี

นายเสกสม กล่าวต่อว่า นอกจากจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ที่ผู้ขับขี่รถ จยย. ควรหลีกเลี่ยงแล้ว พื้นที่บริเวณไหล่ทางยังเป็นพื้นที่เสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดย ขบ. ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกกำชับพนักงานขับรถหลีกเลี่ยงการจอดรถบริเวณทางเดินรถหรือไหล่ทางในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่อง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่รถ จยย. ขณะขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ และต้องสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่ทั้งผู้ขับรถและผู้ซ้อนท้ายรถ แนะนำให้ประชาชนเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หมั่นตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยต่อตัวผู้ขับขี่เองและผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน.

เฟทโก้พบปลัดคลัง ขอปรับเงื่อนไข SSF เหมือน LTF มั่นใจหุ้นไทยคึกคัก

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 พ.ย. นี้ เฟทโก้จะไปพบนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อหารือเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการออม (SSF) ที่จะหมดอายุในปี 67 ว่าจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป หากมีการต่ออายุกองทุน SSF อยากให้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขลงทุนให้เหมือนกับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) คือ เน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นหลัก รวมถึงระยะเวลาการลงทุนให้น้อยกว่า 10 ปี เชื่อว่าการประหยัดภาษีภายใต้การปรับเงื่อนไขการลงทุนดังกล่าว จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 67 ที่ 3-4% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่สูง โดยมองว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงสูงทั้งยุโรป และจีน ที่ยังมีปัญหา ในขณะที่ภาวะสงครามยังน่าเป็นห่วง จึงเป็นปัจจัยกดดันจีดีพีของไทยอยู่ แต่ปี 67 อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องเน้นในเรื่องของการเติบโตของเศรษฐกิจจนเกินไปแต่ควรดูแลปัจจัยภายในประเทศให้พร้อม ซึ่งปี 68 น่าจะเป็นปีสามารถเหยียบคันเร่งได้อย่างเต็มที่คำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 67 มองว่า น่าจะมีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มดอกเบี้ยธนาคารกลางต่างประเทศ จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เริ่มขับเคลื่อนได้มากขึ้น

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะยังคงในระดับเดิม ปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% เนื่องจากประเด็นหลักในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นการปรับไปสู่ระดับปกติ รวมถึงจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกมาจาก ธปทคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต. จึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าเงินบาทที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ก็น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อเศรษฐกิจไทยเริ่มกระเตื้องขึ้น