SME D Bank ปักธง ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย เติมทุนคู่พัฒนา พาผู้ประกอบการเติบโตยั่งยืน
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในการดำเนินธุรกิจตลอดเวลา ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือที่เรียกกันคุ้นเคยว่า “SME D Bank” ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ดูแล ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างครบวงจร เพื่อสร้างความเข้มแข็ง เติบโตได้อย่างยั่งยืน
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ SME D Bank เล่าว่า บทบาทของ SME D Bank ในวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ธนาคารที่มีหน้าที่สนับสนุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการเหมือนแบงก์ทั่วไป แต่ยังมีบทบาทด้านการ “Development” หรือการพัฒนา โดยนำตัว D เข้ามาอยู่ในพันธกิจและชื่อของธนาคารด้วย เพื่อช่วยพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิดการ “เติมทุนคู่พัฒนา” โดยมีทั้งบริการทางการเงินแบบครบวงจร ควบคู่กับการพัฒนาแบบไร้ขีดจำกัด
สำหรับการสนับสนุนด้านการเงิน ธนาคารมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อตอบโจทย์ความต้องการเอสเอ็มอีไทย ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ และเวลาผ่อนชำระสูงสุด 15 ปี ช่วยให้บริหารจัดการธุรกิจได้อย่างคล่องตัว มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในปี 2566 ที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ธนาคารมีนโยบายเชิงรุกเข้าไปสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่อง ขยายธุรกิจ แบบเต็มรูปแบบ
พร้อมกับมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีแก่ผู้ประกอบการฯ ให้ได้รับความสะดวกสบาย เข้าถึงบริการด้านเงินทุนและการพัฒนาของ SME D Bank ได้รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา อย่างปลอดภัย โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยเปิดให้บริการระบบของ SME D Bank ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่เป็นแพลตฟอร์มมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคนมากสุดในประเทศ ซึ่งระยะแรกจะมีบริการที่สำคัญ ดังนี้
- บริการสามารถเรียกดูรายการชำระสินเชื่อย้อนหลัง (Loan Payment History) สูงสุด 6 เดือน สำหรับลูกค้าธนาคาร SME D Bank กลุ่มบุคคลธรรมดา
- บริการชำระค่างวดสินเชื่อ (Loan Payment) ของลูกค้าธนาคาร กลุ่มบุคคลธรรมดา
- บริการข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และงานพัฒนาจาก SME D Bank ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการ “ความรู้คู่เงินทุน” เสริมศักยภาพธุรกิจเดินหน้าได้ต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ ในปี 2566 ธนาคารยังได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ วงเงินรวมกว่า 35,000 ล้านบาท ไว้รองรับการให้บริการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น
- สินเชื่อ SME D พร้อม วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 15 ปี ปลอดชำระเงินต้น 18 เดือนแรก ช่วยเสริมสภาพคล่องกิจการ ลงทุน ปรับปรุง ขยาย ปรับเปลี่ยนธุรกิจ หมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง รวมถึง สามารถ Refinance จากสถาบันการเงินอื่น เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน
- สินเชื่อ BCG Loan วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 15 ปี ปลอดชำระเงินต้น 24 เดือนแรก สนับสนุนธุรกิจยกระดับสู่ BCG Model
- สินเชื่อเสริมสภาพคล่องผู้รับเหมา วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ช่วยคว้าโอกาสเข้าถึงงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและเอกชน และ “แฟคตอริ่ง” วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง เดินหน้าธุรกิจไม่มีสะดุด เป็นต้น
และเร็วๆ นี้ จะเปิดตัวสินเชื่อ SME Speed Up วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 12 ปี ปลอดชำระเงินต้น 6 เดือนแรก สำหรับช่วยเหลือเอสเอ็มอีทุกธุรกิจให้มีเงินทุนไปลงทุน ขยาย ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนกิจการ และใช้หมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง รวมถึงสินเชื่อ Micro OK วงเงินสูงสุด 5 แสนบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี ช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายเล็กมีศักยภาพ แต่ขาดหลักประกัน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ผ่านการค้ำจาก บสย.ถึง 100% นอกจากนั้น ยังมีบริการ “ร่วมลงทุน” เพื่อเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ต่อยอดผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
หัวเรือใหญ่ SME D Bank เผยต่อว่า งานด้าน “การพัฒนา” หลังได้ริเริ่มโครงการ SME D Coach เมื่อปีที่แล้ว โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนมากกว่า 30 หน่วยงาน เข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แบบจบครบในจุดเดียว ผ่านการอบรม สัมมนา เพิ่มช่องทางขาย ขยายตลาดออนไลน์ จับคู่ธุรกิจ ฯลฯ รวมถึงจัดทัพพาทีมโค้ชมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญงานด้านวิชาการและประสบการณ์จริง ไปช่วยเสริมศักยภาพให้เอสเอ็มอี ในปี 2566 โครงการ SME D Coach จะเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ด้วยการเติมความรู้ “เชิงลึกเฉพาะทาง” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว ให้ต่อยอดเดินหน้าธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะเดียวกัน ธนาคารให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ ตามแนวทาง ESG ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environment) รับผิดชอบต่อสังคม (Social) และยึดหลักธรรมาภิบาล (Governance) ด้วยการพัฒนากระบวนการระดมทุนตามหลัก ESG เพื่อยกระดับเอสเอ็มอีไทยสู่ BCG Model ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อ BCG Loan ซึ่งเป็นการร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) จัดทำกรอบระดมทุนเพื่อความยั่งยืน ส่งผลให้ SME D Bank กลายเป็น “สถาบันการเงินแห่งแรกของไทย” ที่สามารถออก “ผลิตภัณฑ์เงินฝาก ESG” เพื่อระดมทุนได้สำเร็จ
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานปี 2566 SME D Bank ยังคงมุ่งมั่นการเป็น “ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย” พร้อมกับนำพาผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนให้ได้อีก 80,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ประกอบการ โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารได้เข้าไปช่วยเติมทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รวมแล้วกว่า 160,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดประโยชน์สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 735,000 ล้านบาท รักษาการจ้างงานได้กว่า 629,000 อัตรา สำหรับผู้ประกอบการสามารถขอรับบริการได้ที่สาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ หรือติดต่อ Call Center โทรคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 1357
ท้ายนี้ เอ็มดี SME D Bank กล่าวย้ำว่า ท่ามกลางโลกธุรกิจปัจจุบัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามาท้าทายเสมอ SME D Bank พร้อมเป็นสถาบันการเงินที่คอยเคียงข้างดูแลเอสเอ็มอีไทย ให้ก้าวเดินในทุกย่างก้าวด้วยความมั่นใจ และพร้อมเติมทุนคู่พัฒนา เพื่อนำพาผู้ประกอบการไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงยั่งยืน.