ย้อนเส้นทางเบี้ยผู้สูงอายุ ฟังเสียงหนึ่งใน กผส.ชี้ระเบียบใหม่ถอยหลังเข้าคลอง

ได้ฟังเสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา หรือนักวิชาการกันมาแล้ว ถึงระเบียบกระทรวงมหาดไทยใหม่ (ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566) ที่จะยกเลิกการจ่ายเงินถ้วนหน้า ให้เฉพาะเพียงผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ

โดยบ้างก็แสดงความกังวลต่อระเบียบใหม่นี้ ว่าอาจเป็นการลอยแพผู้สูงอายุที่กำลังจะเข้าสู่อายุ 60 ปีหลังจากนี้ หรืออาจทำให้เกิดการตกหล่นของกลุ่มคนบางกลุ่ม

ขณะที่บางคนก็บอกว่าระเบียบใหม่นี้เป็นการวางแนวทางขึ้นมาให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ส่วนต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป คือ จะกำหนดให้เป็นสวัสดิการหรือจะต้องจ่ายใครบ้าง ก็เป็นนโยบายของรัฐบาลใหม่

แต่เสียงจากหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพ จะเป็นอย่างไรด้วยนั้น วันนี้ทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้สัมภาษณ์ นพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธานคณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนที่ 1 มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

ภาพ : นพ.วิชัย โชควิวัฒน

ย้อนเส้นทางการจ่ายเบี้ยยังชีพ

แต่เดิมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุฉบับแรก เมื่อปี 2546 กำหนดให้การจ่ายเบี้ยยังชีพเป็นการสงเคราะห์ คือจ่ายให้เฉพาะคนยากจน ลำบากยากไร้ ก่อนต่อมาในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ได้เปลี่ยนแปลงหลักการสำคัญของการจ่ายเบี้ยยังชีพให้เป็นการจ่ายแบบสวัสดิการถ้วนหน้าแบบทั่วถึงและเป็นธรรม คือทุกคนไม่ว่ายากดีมีจนจะได้รับอย่างเท่าเทียมกันหมด โดยจ่ายในอัตราคนละ 500 บาท ซึ่งเราเรียกกัน คล้ายๆ บำนาญพื้นฐาน

แล้วเราก็มีความตั้งใจที่จะพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานเพื่อให้คนได้มีหลักประกันในวัยชราในอนาคต ซึ่งเราทำกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 แล้ว นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 13 ปี

กระทั่งในสมัยรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงได้มีการเพิ่มอัตราการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจาก 500 บาท มาเป็นแบบขั้นบันได 600 – 1,000 บาท นี่เป็นการเพิ่มทีละน้อย ตามกำลัง

และในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่างๆ มีนโยบายที่จะเพิ่มอัตราการจ่ายเบี้ยยังชีพขึ้นไปในอัตราที่แตกต่างกัน อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้กำหนดไว้ว่าจะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุให้เป็น 1,000 บาททุกช่วงอายุ

ระเบียบใหม่เป็นการถอยหลังเข้าคลองไปสุดซอย

แต่อยู่ๆ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปลี่ยนหลักการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุกลับไปที่การจ่ายเฉพาะคนยากจน หรือไม่มีรายเพียงพอแก่การยังชีพ ซึ่งจริงๆ ก่อนหน้านั้นจะครอบคลุมกลุ่มผู้ไร้อุปการะด้วย แต่อันนี้คือเป็นการถอยหลังเข้าคลองไปสุดซอยเลย

อย่างไรก็ตามพลเอกประยุทธ์อาจพลิ้วได้เนื่องจากไม่เคยเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพียงแต่เป็นแคนดิเดตของพรรคเท่านั้น ตรงนี้แหละที่เป็นประเด็นสำคัญว่ารัฐบาลกำลังถอยหลังเข้าคลอง ทำสิ่งที่สวนกระแส และกำลังทำลายระบบบำนาญพื้นฐานของประชาชน

ในเรื่องของการมีรายได้ไม่เพียงพอ ก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการล้มป่วย หรือล้มละลาย เป็นต้น แต่ไม่ว่าเขาจะสิ้นเนื้อประดาตัวอย่างไร แต่เขาก็ยังมีบำนาญพื้นฐานอย่างเบี้ยผู้สูงอายุยังชีพอยู่ แต่ระเบียบใหม่นี้กำลังทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

การพิสูจน์ว่าจนไม่จน มันยากลำบาก และประเทศไทยเราไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะข้อมูลเราไม่มี และระบบคนที่ประเมินก็อาจเชื่อถือไม่ได้ อาจเอาระบบพรรคพวกเข้ามาเป็นหลัก คนจนก็มีหลายสิบเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่ง นี่คือปัญหาของประเทศไทยมาตั้งแต่โบราณกาล และเป็นเรื่องที่ยังแก้ไขไม่ได้ คนตรวจสอบสิทธิเองก็ยากลำบาก อย่างเกษตรกรบางทีเองก็มีรายได้เข้ามาในแต่ละปีไม่เหมือนกันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

แนะรัฐบาลชุดรักษาการควรรีบยกเลิกระเบียบใหม่นี้

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุเมื่อไม่นานนี้ว่า ระเบียบใหม่นี้ถ้าหากยังมีไม่การกำหนดเกณฑ์บ่งชี้ความมีรายได้ไม่เพียงพอออกมาจากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ก็จะยังไม่มีการบังคับใช้

แต่ในความคิดเห็นผมนะ ผมมองว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรจะรีบยกเลิกระเบียบใหม่นี้ ไม่ใช่ว่าตอนนี้โยนเรื่องไปที่คนนู้นคนนี้ หรือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพราะกระทรวงนี้เขาดูแลเรื่องความทุกข์ยากของประชาชน เขาจะออกระเบียบจำกัดสิทธิ หรือรอนสิทธิของประชาชน ไม่มีทางแน่ๆ

ระเบียบใหม่อาจขัดต่อข้อกฎหมาย

ขณะเดียวกัน นพ.วิชัย ได้ตั้งข้อสงสัยว่า ระเบียบใหม่นี้อาจขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่ เพราะ พระราชบัญญัติผู้สูงอายุแห่งชาติ พ.ศ. 2546 ระบุมาตรา 11 เอาไว้ว่า “ผู้สูงอายุมีสิทธิได้รับการคุ้มครองการส่งเสริมและการสนับสนุนในด้านต่างๆ อาทิ การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพเป็นรายเดือนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

การที่ระเบียบใหม่ระบุคุณสมบัติผู้รับเบี้ยยังชีพไว้ว่า ต้องเป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือไม่มีรายได้เพียงพอแก่การเลี้ยงชีพ จึงกลายเป็นการรอนสิทธิของผู้สูงอายุ ซึ่งอาจกระทบคนหลายล้านคน

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การออกระเบียบใหม่นี้ ในวันแม่แห่งชาติที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ควรไหม เหมาะสมหรือไม่

ยังไม่ขีดเส้นกำหนดคุณสมบัติผู้รับเบี้ยยังชีพใหม่

เมื่อถามถึง คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) จะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเมื่อไรนั้น เรื่องนี้ นพ.วิชัย ตอบว่า อยู่ที่ว่ารัฐบาลชุดรักษาการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเรียกประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติให้เร่งกำหนดหลักเกณฑ์หรือไม่และเมื่อไร

ซึ่งผมในฐานะคณะกรรมการคนหนึ่ง ผมก็จะคัดค้าน แต่ไม่รู้ว่าผมจะเป็นหนึ่งในเสียงข้างมาก หรือเสียงข้างน้อย

ยันสูงวัยที่กำลังรับเบี้ยยังชีพ จะไม่ถูกตัดสิทธิ-ไม่ต้องคืนเงินย้อนหลัง

สำหรับผู้สูงอายุที่กำลังจะขอรับสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หลังมีระเบียบใหม่ประกาศออกมาแล้วนั้น ระหว่างที่กำลังรอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) กำหนดเกณฑ์บ่งชี้ความมีรายได้ไม่เพียงพอ ตอนนี้สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพได้ตามปกติ และจะไม่มีผลย้อนหลัง ต้องคืนเงินในอนาคต เพราะจะถือว่าเป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งระเบียบใหม่ได้กำหนดบทเฉพาะกาลข้อที่ 17 ไว้แล้วว่า "ให้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นต่อไป" จึงขอให้ประชาชนในส่วนนี้คลายความกังวล

เกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุใหม่สอดคล้อง รธน. ยันตอนนี้สูงวัยยังได้ตามเดิม

เสียงค้านจากประชาชน เกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่

พีพีทีวี ชวนนับถอยสู่ “ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” บุรีรัมย์

ชมสด! นักบิดโชว์ความแรง แซงทุกโค้ง ครบทุกรุ่น 29 ต.ค. นี้

พีพีทีวี ชวนนับถอยสู่ “ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” บุรีรัมย์

พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตร่วมนับถอยหลังสู่ความยิ่งใหญ่ของ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” จังหวัดบุรีรัมย์ ชมความมันส์กันสด ๆ ในวันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค. เวลา 08.15 น. ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ปิดท้าย วันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. คำพูดจาก เว็บสล็อต777 บิดแรงแซงทุกความยิ่งใหญ่ เริ่มเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป กับรายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023”

หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา “เป้กโก้” ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า นักบิดชาวอิตาลีกับดูตาติคู่ใจเจ้าของนัมเบอร์ 1 กลับมางัดฟอร์มสุดยอดที่สตาร์ทจากอันดับที่ 13 ไล่แซงคู่แข่งจนคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จนทำคะแนนสะสมกลับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 ของตารางคะแนนรวมอีกครั้ง ตามติดด้วยอันดับ 2 "ท็อปกัน" มาเวอริค บีญาเลส ยอดนักบิดชาวสเปนที่ฟอร์มกำลังเข้าที่กับรถแข่งอะพลีเลีย ในขณะที่ “เอลดิอาโบล" ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดชาวฝรั่งเศสจากค่ายยามาฮ่าคืนฟอร์มเจ๋งอีกครั้ง ไล่ล่าอันดับก่อนขึ้นโพเดียมอันดับ 3 ในศึกโมโตจีพี สนาม 15 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์

และลุ้นกันต่อเนื่องในวันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค. เวลา 08.15 น. เป็นต้นไป กับสนามฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เชียร์ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยหมายเลข 35 ให้คว้าชัยในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตทู 2023 และลุ้นเหล่านักบิดโมโตจีพีว่าใครแรงจนเก็บคะแนนสนามนี้ เรียกว่าเป็นโค้งสุดท้ายก่อนจะนับถอยหลังสู่การเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พีพีทีวี เตรียมยิงสด! หน้าจอ ในวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. นี้ เริ่มที่ โมโต 3 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. โมโต 2 เวลา 13.15 น. และ โมโตจีพี เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

แฟน ๆ เตรียมได้รับชมความมันส์แบบเต็มอิ่ม และพิเศษยิ่งกว่าทุกสนาม ทั้งการรายงานสดสีสัน และบรรยากาศความยิ่งใหญ่ให้ชมตลอดงาน รวมถึงการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ พีพีทีวีพร้อมยิงสดให้รับชมครบทุกรุ่น ตั้งแต่เที่ยงตรงเป็นต้นไป อีกทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ให้แฟนพีพีทีวีได้ลุ้นรางวัลอีกมากมาย อาทิ เสื้อยืดพร้อมลายเซ็น ก้อง – สมเกียรติ นักบิดตัวแทนหนึ่งเดียวของไทยในรุ่น โมโต2 อีกด้วย

ห้ามพลาด! ร่วมนับถอยหลังสู่รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” จังหวัดบุรีรัมย์ กับการแข่งขันทั้ง 3 รุ่นสุดมันส์ พร้อมเชียร์ก้อง และนักบิดระดับโลกไปพร้อม ๆ กันทาง พีพีทีวี ช่อง 36 ถ่ายทอดสดให้ชมฟรีผ่านทางหน้าจอ เว็บไซต์ www.pptvhd36.com และแอปพลิเคชัน PPTVHD36